รายงานพิเศษ : “ลอยกระทงรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อลดปริมาณขยะตกค้างในแหล่งน้ำ” กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เชิญชวนประชาชนร่วมประเพณีลอยกระทงประจำปี 2566 ในรูปแบบ "รักษ์โลก รักษ์ประเพณีไทย ลอยกระทงด้วยกัน 1 ครอบครัว 1 กระทง" เพื่อช่วยลดปริมาณขยะตกค้างในแหล่งน้ำ ควบคู่กับสืบสานประเพณีสำคัญของไทยให้คงอยู่ต่อไป “ลอยกระทง” ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติ เป็นประเพณีไทยที่สืบทอดวัฒนธรรมมายาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคา “เทพเจ้าแห่งสายน้ำ” ที่ให้น้ำไว้ใช้ในการเกษตรและประโยชน์อื่นๆ แล้วยังเป็นการขอขมาที่ได้ลงอาบน้ำและปล่อยของเสียลงไปด้วย ที่สำคัญเป็นการสร้างจิตสำนึกและความตระหนักในความสำคัญของแม่น้ำและแหล่งน้ำต่างๆ อนุรักษ์วัฒนธรรมและประเพณีไทย ช่วยสร้างความสามัคคีในครอบครัวและชุมชน โดยประชาชนส่วนใหญ่จะประดิษฐ์กระทงจากใบตอง ใบพลับพลึง กาบมะพร้าว แล้วปักธูป-เทียนบนวัสดุที่ไม่จมน้ำ จากนั้นนําไปปล่อยลงให้ลอยไปตามลําน้ำ แต่จากความเจริญรุ่งเรืองของสังคมโลกได้มีการนำสิ่งของสมัยใหม่เข้ามาแทนที่ เช่น โฟม ตะปู ลวดลวดเย็บกระดาษ กากเพชร พลาสติก เข้ามาใช้มากขึ้นจนกลายเป็นขยะตกค้างในแหล่งน้ำที่ย่อยสลายยาก ส่งผลให้สิ่งแวดล้อม แหล่งน้ำเน่าเสีย ปลาตาย กีดขวางการระบายน้ำ และทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมโทรม โดยปี 2565 ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร พบมีจํานวนกระทงที่เก็บได้ใน 572,602 ใบ เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จํานวน 169,367 ใบ ส่วนใหญ่ทําจากวัสดุธรรมชาติ 548,086 ใบ และทําจากโฟม 24,516 ใบ ถือว่าเป็นตัวเลขกระทงทำจากวัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายได้มีสัดส่วนลดลงอยู่ แต่วัสดุทำกระทงจากธรรมชาติบางชนิดกลับส่งผลเสียต่อสัตว์น้ำและสิ่งแวดล้อม เช่น ขนมปัง กระดาษ อาหารปลา กรวยไอศกรีม ย่อยสลายได้จริงแต่กลับทำลายสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่คิด เพราะต้องใช้ออกซิเจนช่วยย่อยสลายส่งผลให้ออกซิเจนในน้ำลดลง ส่วนกระดาษใช้เวลาย่อยสลายนานประมาณ 2 – 5 เดือนและอาจมีสารเคมีปนเปื้อนจากสีที่ฉีดพ่นในกระดาษ รวมทั้ง ยังพบกระทงบางส่วนเล็ดลอยลอยออกไปยังทะเล และบางส่วนจมลงสู่ใต้ดินยากต่อการเก็บมาจำกัด ในส่วนของ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอเชิญชวนประชาชนร่วมงานลอยกระทงปีนี้เน้นไม่สร้างภาระปัญหาให้กับแหล่งน้ำ แม่น้ำ และสิ่งแวดล้อม โดยทุกคนต้องรักษาประเพณีลอยกระทงควบคู่กับรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันให้ได้ ด้วยการเลือกกระทงที่ไม่เป็นขยะ หรือสร้างภาระให้สิ่งแวดล้อม นายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ย้ำว่า อยากให้ประชาชนทุกคนร่วมอนุรักษ์สืบสานประเพณีลอยกระทงและรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการงดใช้กระทงโฟมและไม่ใช้กระทงทำจากขนมปัง เพราะจะทำให้น้ำเน่าเสีย เช่น 1 กระทง 1 ครอบครัว , ลอยกระทงออนไลน์ , ใช้วัสดุธรรมชาติทำกระทงจําพวกหยวกกล้วย ใบตอง ใบไม้ ดอกไม้ ถือเป็นการลดปริมาณขยะลงแหล่งน้ำได้ส่วนหนึ่ง ที่สำคัญไม่ดัดแปลงกระทงโดยใช้วัสดุต่างๆที่อาจทําให้เกิดขยะตกค้างและกีดขวางการระบายน้ำจนสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้ประชาชนและผู้ขายกระทงมีความตระหนักและให้ความร่วมมืออย่างดีเกี่ยวกับแนวทางการลอยกระทงรักษ์โลก หากพูดถึงสิ่งของต่างๆที่ใส่ไปพร้อมกับการลอยกระทงเพื่อเสริมความสิริมงคล หรือความเชื่อทางมูเตลูแล้ว อยากให้ประชาชนปรับเปลี่ยนมาใส่สิ่งที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและแหล่งน้ำแทน เช่น ข้าวสาร ได้คนดีๆมีฐานะมาอุปถัมภ์ // ข้าวตอก งานมั่นคง-เจริญเติบโต // เศษผมและเล็บ ชีวิตพ้นจากความทุกข์ // ดอกจำปา ค้าขายให้รุ่งเรืองตลอดปี // กลับกุหลาบ ชีวิตไม่มีอุปสรรค // ดอกกล้วยไม้ สุขภาพแข็งแรง // ดอกดาวเรือง ชีวิตเจริญรุ่งเรือง //ดอกบานไม่รู้โรย ความรักมั่นคง // ดอกรัก มีความรักที่ดี // ดอกบัว สติปัญญาดี
อ่านเพิ่มเติ่ม >