การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฝผ.) เขื่อนวชิราลงกรณ จัดงานวันครบรอบ 38 ปี รัฐพิธีเปิดเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยในช่วงเช้าได้มีพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณเขื่อนวชิราลงกรณ ประกอบพิธีสงฆ์และถวายภัตตาหารเพล ตลอดจนการจัดพิธีมอบทุนการศึกษาและของขวัญวันเด็กเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 13 มกราคม 2567 ให้กับนักเรียนและโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความชื่นมื่น มีหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่มาร่วมแสดงความยินดีเป็นจำนวนมากสำหรับรัฐพิธีเปิดเขื่อนวชิราลงกรณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดเขื่อนเขาแหลมอย่างเป็นทางการ ในวันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ.2529 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม “เขื่อนวชิราลงกรณ” ตามพระนามาภิไธยในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร แทน ชื่อ “เขื่อนเขาแหลม” เมื่อวันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2544เขื่อนวชิราลงกรณ เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ซึ่งเป็นโครงการหนึ่งของแผนพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลอง นอกจากจะมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาการเกษตรและอุตสาหกรรมในบริเวณพื้นที่กว้างใหญ่ของลุ่มน้ำแม่กลองแล้ว ยังอำนวยประโยชน์สำคัญในการผลิตไฟฟ้าและด้านอื่นๆ อีกมากมายอีกทั้งเขื่อนวชิราลงกรณ เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทย ที่ลาดผิวหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กตั้งอยู่บนแม่น้ำแควน้อย ในท้องที่ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี การก่อสร้างเริ่มในเดือนมีนาคม พ.ศ.2522 แล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. 2527 ความสูงจากฐานเขื่อน 92 เมตร สันเขื่อนกว้าง 10 เมตร ความยาว 1,019 เมตร ระดับสันเขื่อนสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) +161.75 เมตร ปริมาตรหินถม ตัวเขื่อน 8.1 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำอยู่ในท้องที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี มีพื้นที่รับน้ำฝน 3,720 ตารางกิโลเมตร ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 5,500 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีปริมาณน้ำเก็บกักปกติ 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ระดับ +155.00 เมตร (รทก.) โรงไฟฟ้าเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดกำลังผลิตเครื่องละ 100,000 กิโลวัตต์ จำนวน 3 เครื่อง รวมกำลังผลิต 300,000 กิโลวัตต์ ให้พลังงานไฟฟ้า เฉลี่ยปีละ 777 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงขณะเดียวกันเขื่อนวชิราลงกรณ นอกจากสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้า แล้วยังอำนวยประโยชน์ในด้านอื่นๆ อาทิ ช่วยบรรเทาอุทกภัย ซึ่งโดยปกติน้ำในฤดูฝน น้ำทั้งลำน้ำแควน้อยและแควใหญ่จะมีปริมาณมาก เมื่อไหลมารวมกันจะทำให้เกิดน้ำท่วมลุ่มน้ำแม่กลองเป็นประจำ แต่หลังจากได้ก่อสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ แล้วเสร็จ อ่างเก็บน้ำของเขื่อนจะช่วยเก็บน้ำไว้ เป็นการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ดังกล่าวอย่างถาวร ด้านชลประทานและการเกษตรทำให้มีแหล่งน้ำถาวรเพิ่มอีกแห่งหนึ่งช่วยเสริมระบบการชลประทานในพื้นที่ของโครงการ แม่กลองใหญ่ พื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดราชบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรสงคราม โดยเฉพาะทำการเพาะปลูกในฤดูแล้งจะได้ผลผลิตการเกษตรเพิ่มขึ้น ด้านการประมง อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนเหมาะสำหรับเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาขนาดใหญ่ที่สำคัญทำให้ราษฎร มีรายได้จากการทำประมงรวมแล้วปีละหลายล้านบาทการรักษาระบบนิเวศผลักดันน้ำเค็มและน้ำเสีย ในฤดูแล้งก่อนหน้าที่จะมีการก่อสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ ในช่วงฤดูแล้งบริเวณปากน้ำแม่กลองจะมีน้ำเค็มไหลย้อนเข้ามาส่วนหนึ่ง รวมทั้งยังมีน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมบริเวณสองฝั่งแม่น้ำแม่กลองไหลเข้ามาอีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนวชิราลงกรณ เพิ่มขึ้นในฤดูแล้ง จะช่วยขับไล่น้ำเสียและผลักดันน้ำเค็มออกไปทำให้สภาพน้ำในแม่น้ำแม่กลองมีคุณภาพดีขึ้น
อ่านเพิ่มเติ่ม >