เชิญชวนผู้ใช้รถยนต์หันมาใช้น้ำมันคุณภาพมาตรฐานยูโร 5 ให้มากขึ้น ช่วยลดฝุ่น PM2.5 ร้อยละ 20-24
นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้ามาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ ทั้งพื้นที่มีปัญหาและพื้นที่เสี่ยงต่อปัญหาฝุ่นละออง รวมถึงการควบคุมฝุ่นในเมือง ด้วยการสนับสนุนเร่งรัดจำหน่ายน้ำมันคุณภาพมาตรฐาน ยูโร 5 ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อลดมลพิษจากไอเสียรถยนต์ โดยเฉพาะฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งกระทรวงพลังงานได้ปรับปรุงคุณภาพน้ำมันในกลุ่มน้ำมันเบนซิน –แก๊สโซฮอล์และกลุ่มดีเซล ให้เป็นมาตรฐานยูโร 5 โดยโรงกลั่นน้ำมัน 6 แห่งคือ ไทยออยล์ บางจาก พีทีทีจีซี บางจากศรีราชา ไออาร์พีซี และเอสพีอาร์ซี พร้อมจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐานยูโร 5 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา
เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐานยูโร 5 ทั้งกลุ่มเบนซิน แก๊สโซฮอล์และดีเซลจะมีกำมะถันไม่เกิน 10 ppm (ส่วนในล้านส่วนโดยน้ำหนัก) ขณะที่มาตรฐานยูโร 4 จะมีกำมะถันไม่เกิน 50 ppm ซึ่งน้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐานยูโร 5 ใช้ได้กับรถยนต์ทั้งรุ่นเก่า-รุ่นใหม่และไม่ก่อเกิดปัญหาต่อเครื่องยนต์
จากการทดสอบการปล่อยมลพิษโดยห้องปฏิบัติการตรวจวัดมลพิษทางอากาศจากยานพาหนะของกรมควบคุมมลพิษ พบรถยนต์มาตรฐานยูโร 3 และรถยนต์มาตรฐานยูโร 4 มีการใช้งานมากที่สุด เมื่อมาใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐานยูโร 5 จะทำให้ค่าฝุ่น PM2.5 ลดลงถึงร้อยละ 20 – 24
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ย้ำว่า ช่วงนี้เกิดความกดอากาศสูง สภาพอากาศปิดและอัตราการระบายอากาศไม่ดี ทำให้ฝุ่นละอองเกิดการสะสมในบรรยากาศจนอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย ซึ่งยานพาหนะเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 หลักในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอเชิญชวนประชาชนผู้ใช้รถเติมน้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐานยูโร 5 พร้อมขอความร่วมมือตรวจเช็กและดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยลดมลพิษในบรรยากาศและช่วยลดฝุ่นละออง PM2.5 ที่กำลังสะสมสูงขึ้น
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : ปิยาพรรณ ยังเทียน / สวท.
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย