สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ 1 ประกาศเกียรติคุณ เข็มที่ระลึกแก่ผู้บริจาคโลหิตครบ 36 ครั้ง และ 108 ครั้ง ประจำปี 2561 ถึง 2565 ในส่วนภูมิภาคของเหล่ากาชาดจังหวัดภาค 1
วันนี้ 29 ธันวาคม 2566 เวลา 9 นาฬิกา 56 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาขาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปยัง โรงแรมกรุงศรี ริเวอร์ อำเภอพระนครครีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ 1 ประกาศเกียรติคุณ และเข็มที่ระลึกแก่ผู้บริจาคโลหิตครบ 36 ครั้ง และ 108 ครั้ง ประจำปี 2561 ถึง 2565 ในส่วนภูมิภาคของเหล่ากาชาดจังหวัดภาค 1 ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดอ่างทอง จำนวน 1,126 ราย ประกอบด้วย
- พระภิกษุบริจาคโลหิต 100 ครั้ง รับพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 จำนวน 1 รูป
- พระภิกษุแทนศาสนสถาน ที่สนับสนุนการบริจาคโลหิต รับพระราชทานประกาศเกียรติคุณ จำนวน 1 รูป
- พระภิกษุบริจาคโลหิตรับพระราชทานเข็มที่ระลึกผู้บริจาคโลหิต ครบ 36 ครั้ง จำนวน 12 รูป และ 108 ครั้ง จำนวน 7 รูป
- ผู้บริจาคโลหิต 100 ครั้ง รับพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 จำนวน 292 ราย
- ผู้แทนหน่วยงานผู้สนับสนุนการบริจาคโลหิต รับพระราชทานประกาศเกียรติคุณ จำนวน 36 ราย
- และผู้บริจาคโลหิต รับพระราชทานเข็มที่ระลึกผู้บริจาคโลหิตครบ 36 ครั้ง จำนวน 705 ราย และ 108 ครั้ง จำนวน 72 ราย
เพื่อแสดงความขอบคุณ พร้อมทั้งเชิดชูเกียรติผู้มีจิตศรัทธาบริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจ ไม่หวังสิ่งตอบแทนเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยและยกย่องหน่วยงานผู้สนับสนุนการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องเสมอมา
ทั้งนี้ เหล่ากาชาดจังหวัดและโรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตทั่วประเทศ สนับสนุนการรับบริจาคโลหิตเพื่อใช้รักษาผู้ป่วย แบ่งเป็น 12 ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ที่ผ่านมาการจัดหาโลหิตยังไม่สม่ำเสมอ บางช่วงเวลามีปริมาณโลหิตสํารองไม่เพียงพอแก่ผู้ป่วยที่เกิดภาวะสูญเสียโลหิตฉับพลัน รวมทั้งจะต้องนำไปใช้กับผู้ป่วยโรคเลือด หากมีผู้บริจาคโลหิต บริจาคสม่ำเสมอทุก 3 เดือน หรือปีละ 4 ครั้ง จะทําให้มีโลหิตเพียงพอสําหรับผู้ป่วยตลอดทั้งปี
ข่าวในพระราชสำนัก สทท.
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : สายข่าวในพระราชสำนัก NBT
ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา
แหล่งที่มา : สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย